บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา หน่วยการเรียนรู้ ดวงจันทร์และระบบสุริยะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ ดวงจันทร์และระบบสุริยะ ของนักเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา และ 3) เปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัด การเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกุดตุ้มสามัคคีวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 24 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา หน่วยการเรียนรู้ ดวงจันทร์และระบบสุริยะ จำนวน 4 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ ดวงจันทร์และระบบสุริยะ ชนิดแบบปรนัย 4 ตัวเลือก และ 3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ชนิดแบบปรนัย 4 ตัวเลือก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระกัน (Dependent samples t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1. แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา หน่วยการเรียนรู้ ดวงจันทร์และระบบสุริยะ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 82.13/81.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หน่วยการเรียนรู้ ดวงจันทร์และระบบสุริยะ ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Abstract
This research purposed to 1) develop the lesson plans based on STEM education on the learning unit of the moon and the solar systems of Prathomsuksa 4 students to meet the effectiveness criterion of 80/80, 2) compare students’ learning achievement on the learning unit of the moon and the solar systems between before and after learning, and 3) compare students’ basic science process skills between before and after learning. The sample was 24 Prathomsuksa 4 students at Kuttumsamakkywittaya School in the second semester of the academic year 2020, obtained by cluster random sampling. The research instruments were 1) 4 lesson plans based on STEM education on the learning unit of the moon and the solar systems for Prathomsuksa 4 students, 2) 4-multiple choice learning achievement test on the learning unit of the moon and the solar systems, and 3) The 4-multiple choice on science process skills test. The statistics used to analyze the data were percentage, mean, standard deviation, and dependent samples t-test. This findings were as follows: 1. The lesson plans based on STEM education on the unit of the moon and the solar systems for Prathomsuksa 4 students had an efficiency of 82.13/81.11, which met the expected criterion of 80/80. 2. The mean of students’ learning achievement on the unit of the moon and the solar systems after learning through the learning management based on STEM education was significantly higher than that of before at the .05 level. 3. The mean of students’ basic science process skills after learning through the learning management based on STEM education was significantly higher than that of before at the .05 level.
คำสำคัญ
สะเต็มศึกษา, ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนKeyword
STEM education, Basic science process skills, Learning achievementกำลังออนไลน์: 21
วันนี้: 44
เมื่อวานนี้: 1,746
จำนวนครั้งการเข้าชม: 969,779
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย
ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
โทร: 0-4297-0033