บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ เรื่อง การใช้อุปกรณ์และการต่อวงจรไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะปฏิบัติงานของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ 3) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ ความเข้าใจของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ 4) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสกลนคร เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจ เรื่อง การใช้อุปกรณ์และการต่อวงจรไฟฟ้า แบบประเมินทักษะปฏิบัติงานและแบบวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และร้อยละ (Percentage) วิเคราะห์หาค่าทดสอบความรู้ ความเข้าใจ ก่อนเรียนและหลังเรียน และทักษะปฏิบัติงานโดยการทดสอบที (t-test) ชนิดไม่เป็นอิสระแก่กัน (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ เรื่อง การใช้อุปกรณ์และการต่อวงจรไฟฟ้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 84.74/88.41 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลการเปรียบเทียบคะแนนทักษะปฏิบัติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ เรื่อง การใช้อุปกรณ์และการต่อวงจรไฟฟ้า พบว่าคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลการเปรียบเทียบคะแนนความรู้ ความเข้าใจ ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ เรื่อง การใช้อุปกรณ์และการต่อวงจรไฟฟ้า พบว่า คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีเจตคติต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทักษะปฏิบัติ เรื่อง การใช้อุปกรณ์และการต่อวงจรไฟฟ้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น โดยรวมอยู่ในระดับมาก
Abstract
The purposes of this research were : 1) to develop and determine the efficiency of the development of the learning activity by using the instructional model of practical skills on using the equipments and wiring for circuit electrics based on the set of 80/80 2) to compare the practical skills of students prior to and after using the instructional model of practical skills. 3) to compare the understanding of students prior to and after using the teaching model of practical skills and 4) to determine the students’ attitude on the learning activity by using the teaching model of practical skills. The subjects of this study were 21 Matthayom Suksa 1 students in the first semester of the academic year 2009, at Tao Ngoi Pattanasuksa School under the office of Sakon Nakhon Educational Service Area 1. The instruments used in this research were the learning plan of using the instructional model of practical skills, the learning achievement test of using the equipments and wiring for circuit electrics, the practical skills evaluation test, and attitude test of learning with the instructional model of practical skills. The data were analyzed by using mean, standard deviation, percentage, and t-test (Dependent Samples).
The results of this research revealed that:
1. The learning activity by using the instructional model of practical skills on using the equipments and wiring for circuit electrics for Matthayom 1 students obtained the efficiency of 84.74/88.41 which was higher than the criterion of 80/80.
2. The posttest average scores of performance skilsl of students learning through the developed of the learning activity by using the instructional model of practical skills on using the equipments and wiring for circuit electrics were higher than their pretests at the .01 level of significance.
3. The posttest average scores of knowledge and understanding of the students learning through the developed learning activity by using the instructional model of practical skills on using the equipments and wiring for circuit electrics were higher than those of their pretests at the .01 level of significance.
4. The average scores of attitudes of the students learned through the developed the learning activity by using the instructional model of practical skills on using the equipments and wiring for circuit electrics were at the good level.
กำลังออนไลน์: 18
วันนี้: 419
เมื่อวานนี้: 533
จำนวนครั้งการเข้าชม: 793,714
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย
ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
โทร: 0-4297-0033
