บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT กับรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน 3) เปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT กับรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน และ 4) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และรูปแบบ วัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสะแกพิทยาคม อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 60 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) คือ กลุ่มทดลอง 1 จํานวน 30 คน ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT และกลุ่มทดลอง 2 จํานวน 30 คน ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT แผนการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีค่าความยากตั้งแต่ .32 ถึง .72 และมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ .23 ถึง .92 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .89 และแบบทดสอบวัดทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มีค่าความยากอยู่ระหว่าง .35 ถึง .64 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .20 ถึง .59 ชุดที่ 1 ด้านการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .83 ชุดที่ 2 ด้านการให้เหตุผลมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .84 ชุดที่ 3 ด้านการสื่อสาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .87 ชุดที่ 4 ด้านการเชื่อมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .82 และชุดที่ 5 ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .81
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที t-test (Dependent samples) และการทดสอบค่าเอฟ F-test (MANOVA)
ผลการวิจัยพบว่า
1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องทศนิยมและเศษส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT กับรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น มีประสิทธิภาพ 76.96/77.58 และ 76.70/77.50 เป็นไปตามเกณฑ์
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดการเรียนรู้ระหว่างการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT กับกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ทั้งสองรูปแบบมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดการเรียนรู้ระหว่างการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT กับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ทั้งสองรูปแบบมีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดการเรียนรู้ระหว่างการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT กับการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ไม่แตกต่างกัน
Abstract
This research aimed to 1) investigate the efficiency of lesson plans on ‘decimals and fractions’ of Mathayomsuksa 1 students taught by 4 MAT and 5E according to the anticipated 75/75 criterion, 2) compare learning achievement on ‘decimals and fractions’ of Mathayomsuksa 1 students taught by 4 MAT and 5E based on pre-test and post-test scores, 3) compare mathematical processing skills on ‘decimals and fractions’ of Mathayomsuksa 1 students taught by 4 MAT and 5E based on pre-test and post-test scores, and 4) compare learning achievement and mathematical processing skills on ‘decimals and fractions’ of Mathayomsuksa 1 students taught by 4 MAT and 5E. The sample included 60 Mathayomsuksa 1 students in Sakae Pittayakhom School, Semester 2, Academic Year 2016 selected by cluster random sampling. The experimental group 1 consisted of 30 students taught by 4 MAT and the experimental group 2 consisted of 30 students taught by 5E. The research instruments included a 4 MAT lesson plan, a 5E lesson plan, a learning achievement test difficulty index from .32 to .72, discriminant index from .23 to .92, confidence index is .89, and a mathematical process skills test difficulty index from .35 to .64, discriminant index from .23 to .59, When the 1 problem solving confidence index is .83, the 2 reasoning confidence index is .84, the 3 communication confidence index is .87, the 4 connection confidence index is .82, and the 5 Creativity confidence index is .81.
Statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, t-test (Dependent samples) and F-test (MANOVA).
The results showed that:
1. The efficiency indexes of 4 MAT and 5E lesson plans on ‘decimals and fractions’ of Mathematics Department for Mathayomsuksa 1 students were 76.96/77.58 and 76.70/77.50 respectively, which met the criterion.
2. Learning achievement of Mathayomsuksa 1 students after taught by 4 MAT and by 5E were higher than that before taught by 4 MAT and by 5E at a statistical significance of .05.
3. Mathematical processing skills of Mathayomsuksa 1 students after taught by 4 MAT and by 5E were higher than that before taught by 4 MAT and by 5E at a statistical significance of .05.
4. Learning achievement and mathematical processing skills of Mathayomsuksa 1 students taught by 4 MAT and taught by 5E were not different.
คำสำคัญ
วัฏจักรการเรียนรู้ 4 MAT, วัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น, ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์Keyword
4MAT, 5E, mathematical processing skillsกำลังออนไลน์: 14
วันนี้: 787
เมื่อวานนี้: 1,300
จำนวนครั้งการเข้าชม: 971,822
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย
ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
โทร: 0-4297-0033