บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบทักษะการอ่านบทร้อยกรองก่อนและหลังเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) ศึกษาเจตคติของผู้เรียนต่อการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนบ้านนายอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และการวิจัยครั้งนี้ใช้แบบแผนการวิจัย One Group Pretest Posttest Design
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) หนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 เรื่อง 2) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 16 แผน 3) แบบวัดทักษะการอ่านบทร้อยกรอง 4) แบบวัดเจตคติต่อการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t–test Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. หนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.33/84.00 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ทักษะการอ่านบทร้อยกรองของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านนายอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 หลังเรียนโดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านนายอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 มีเจตคติต่อการเรียนรู้โดยใช้หนังสือส่งเสริมการอ่านวรรณกรรมพื้นบ้านนครพนม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งมีค่าคะแนนโดยรวมเท่ากับ 4.878 โดยผู้เรียนมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน 0.244
Abstract
The purposes of this study were: 1) to develop the supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group for Mathayom Suksa 3 Students to reach the established efficiency of 80/80, 2) to compare the students’ reading skills gained before and after they had learnt through the developed supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group for Mathayom Suksa 3, 3) to investigate the students’ attitude toward the developed supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group for Mathayom Suksa 3. The subjects were 15 Mathayom Suksa 3 students who were studying in the first semester of 2010 academic year at Ban Nayor School of the Office of Nakhon Phanom Primary Educational Service Area 1. They were purposively selected. The study employed One Group Pretest Posttest.
The instruments used in the study consisted of these items: 1) 4 supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group for Mathayom Suksa 3, 2) 16 learning plans for the supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group for Mathayom Suksa 3, 3) the test of folk poems’ reading skill, 4) the measurement form which 20 questions were included to examine the students’ attitude toward their learning through the supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group for Mathayom Suksa 3. The statistics used to analyze the data were mean, percentage, standard deviation, and t–test (dependent samples).
The study revealed the following outcomes:
1. The developed supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group for Mathayom Suksa 3 had their efficiency of 84.33/84.00 which was higher than the set criteria.
2. After the students had learnt through the developed supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group for Mathayom Suksa 3, their reading skills were statistically higher than those of before at .01 level of significance.
3. As a whole, Mathayom Suksa 3 students at Ban Nayor School of the Office of Nakhon Phanom Primary Educational Service Area 1 had their attitude toward the developed supplementary reading books of Nakhon Phanom’s folk poems in Thai Learning Substance Group at 4.878, which was at the highest level. Their opinions were close to those of each other’s at 0.244.
กำลังออนไลน์: 45
วันนี้: 0
เมื่อวานนี้: 1,499
จำนวนครั้งการเข้าชม: 969,488
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย
ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
โทร: 0-4297-0033