Download PDF

การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้หนังสือนิทานเพื่อเสริมสร้าง ความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
Development of the Learning Activities Based on Cooperrative Learning Approach Using Stories Books to Enhance Abilities in Reading and Write Spell for Prathom Suksa 1

ผู้แต่ง
สุทธินี ศรเพชร, วัฒนา สุวรรณไตรย์
Author
Suttinee Sornphet, Watana Suwannatrai

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้หนังสือนิทานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบ ความสามารถในด้านการอ่าน และการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้หนังสือนิทาน 3) เพื่อศึกษาเจตคติ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้หนังสือนิทาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านคำนางโอก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 19 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) สาเหตุที่เลือกโดยวิธีนี้เพราะว่าโรงเรียนมีชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 1 ห้อง และนักเรียนที่เลือกเป็นกลุ่มตัวอย่าง สามารถเป็นตัวแทนของประชากรได้ เพราะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในกลุ่มเครือข่ายคำสร้อยพัฒนศึกษาทุกโรงเรียน จัดห้องเรียนแบบคละความสามารถ และจากการประเมินคุณภาพทางการเรียนทุกโรงเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใกล้เคียงกัน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้หนังสือนิทานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 24 แผน 2) หนังสือนิทานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 เล่ม 3) แบบวัดความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีลักษณะเป็นแบบวัดปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ รวม 20 ข้อ 4) แบบวัดเจตคติต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้หนังสือนิทานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยมีลักษณะมาตราส่วนประมาณค่า ซึ่งเป็นภาพหน้าคน มี 3 ระคับ คือ มาก ปานกลาง น้อย จำนวน 20 ข้อ

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และร้อยละ (Percentage) วิเคราะห์หาค่าผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน และหลังเรียน โดยการทดสอบค่าที (t-test) ชนิดกลุ่มตัวอย่างไม่อิสระต่อกัน (Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้หนังสือนิทานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่าน และการเขียนสะกดคำชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีค่าเท่ากับ 82.50/81.32

2. ความสามารถในการอ่าน และการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้หนังสือนิทานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. เจตคติของนักเรียนต่อกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้หนังสือนิทานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นอยู่ในระดับมาก

---