บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ร่วมกับการเสริมต่อการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ ให้มีประสิทธิผลตามเกณฑ์ดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป 3) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านดอนเตย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 24 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดความสามารถการอ่านและการเขียนคำภาษาภาษาไทยที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย โดยใช้ Dependent samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ 89.17/82.40 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2. ประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 65.73 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ร้อยละ 50 3. ความสามารถในการอ่านและการเขียนคำที่มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราของนักเรียนหลังเรียน โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.70, S.D. = 0.15)
Abstract
The purposes of this research were: 1) to develop the learning activities for enhancing abilities in reading and writing Thai words with non-corresponding final consonants using LT cooperative learning with scaffolding for Prathomsuksa 1 students to reach the efficiency criteria of 80/80, 2) to develop the learning activities in accordance with the performance index criteria of 50 percent or more, 3) to compare the students’ abilities in reading and writing Thai words with non-corresponding final consonants before and after the intervention using the developed learning activities, and 4) to explore the students’ satisfaction with the developed learning activities. The samples, obtained through cluster random sampling, consisted of 24 Prathomsuksa 1 students at Ban Dontoei School under the Office of Nakhon Phanom Primary Educational Service Area Office 2 in the second semester of the 2021 academic year. The research instruments were: 1) lesson plans, 2) a test measuring students’ abilities in reading and writing Thai words with non-corresponding final consonants, and 3) a satisfaction form. The statistics for data analysis were percentage, mean, standard deviation, and dependent samples t-test. The findings were as follows: 1. The efficiency of the developed learning activities reached the efficiency at 89.17/82.40, which was higher than the defined criteria of 80/80. 2. The effectiveness index of developed learning activities was 65.73 percent, which passed the pre-set criterion of 50 percent. 3. The students’ abilities in reading and writing Thai words with non-corresponding final consonants after the intervention were higher than those before the intervention at the .01 level of significance. 4. The students’ satisfaction with the developed learning activities was at the highest level ( = 4.70 S.D. = 0.15).
คำสำคัญ
กิจกรรมการเรียนรู้, ความสามารถในการอ่านและการเขียน, การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT, การเสริมต่อการเรียนรู้Keyword
Learning Activities, Abilities in Reading and Writing Thai words with Non-Corresponding Final Consonants, LT Cooperative Learning, Scaffoldingกำลังออนไลน์: 35
วันนี้: 768
เมื่อวานนี้: 873
จำนวนครั้งการเข้าชม: 968,757
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย
ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
โทร: 0-4297-0033