บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ ศึกษาผลของการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้สุขศึกษา หน่วยการเรียนรู้ วัยรุ่นวัยวิกฤติ ตามทฤษฎีพหุปัญญา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนบัวขาว อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 จำนวน 60 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน แบบแผนการวิจัยใช้แบบ One Group Pretest-Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า E1: E2 ค่า t-test (Dependent Samples) ค่าดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness Index) และค่าสัมประสิทธิ์การแปรผัน (Co-efficiency of Variance หรือ ค่า C.V.)
ผลการวิจัยพบว่า
กิจกรรมการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้สุขศึกษา หน่วยการเรียนรู้ วัยรุ่นวัยวิกฤติตามทฤษฎีพหุปัญญา สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
1. ประกอบด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ การออกแบบการเรียนรู้ และการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีพหุปัญญา
2. เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ E1 : E2 = 92.58 : 83.16
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอน ดังกล่าวสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับร้อยละ 58.69 แสดงว่าเป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิผล คือทำให้นักเรียนมีความเจริญก้าวหน้าในการเรียน
5. เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีสัมประสิทธิ์การแปรผันของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเท่ากับ 5.87 แสดงว่าการจัดการเรียนการสอนโดยใช้นวัตกรรมที่สร้างขึ้นนั้นมีคุณภาพ “ดีเยี่ยม” คือ สามารถทำให้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนแต่ละคนมีการกระจายหรือเบี่ยงเบน ไปจากคะแนนเฉลี่ยของกลุ่มน้อย
6. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้สุขศึกษาหน่วยการเรียนรู้ วัยรุ่นวัยวิกฤติ ตามทฤษฎีพหุปัญญา ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น โดยมีค่าเฉลี่ยของคะแนนความพึงพอใจ เท่ากับ 4.27 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.22 คิดเป็นร้อยละ 85.40 ซึ่งแสดงว่าความพึงพอใจต่อการเรียนการสอน อยู่ในระดับมาก
Abstract
The purpose of this research was to develop the instructional activities of health learning substance in the unit on “Critical Adolescence” based on Theory of Multiple Intelligences for Mathayom Suksa 2 students. The subjects were 60 students of Buakhao School Kuchinarai district Kalasin province in the first semester of the academic year 2008, selected by Multistage random sampling. The One-Group Pretest-Posttest Design was utilized in this study. Statistics were percentage, mean, standard deviation, effectiveness of activities : effectiveness of achievements (E1: E2), t-test (Dependent Samples), Effectiveness Index and Co-efficiency of Variance.
The results of this research were as follows :
The instructional activities of health learning substance in the Unit on “Critical Adolescence” based on Theory of Multiple Intelligences for Mathayom Suksa 2 Students :
1. Considerated in the 2 parts, the first was learning activities design and the second was making instructional activities based on Theory of Multiple Intelligences.
2. Effectiveness of activities : Effectiveness of achievements (E1: E2) = 92.58 : 83.16.
3. The posttest average score of learning achievements was higher than the pretest average score at the 0.01 level of significance.
4. The Effectiveness Index was 58.69 %, that meant the activities were effective enough to help enhance the students’ learning.
5. The Co-efficiency of Variance was 5.87, that meant these were the best activities that could make slight deviation scores of learning achievements from mean.
6. 85.40 percent of the students had high attitudes to the Health instructional activities on Critical Adolescence Unit based on Theory of Multiple Intelligences. Mean of the attitudes was 4.27 and the standard deviation was 0.22.
กำลังออนไลน์: 14
วันนี้: 901
เมื่อวานนี้: 873
จำนวนครั้งการเข้าชม: 968,890
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย
ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
โทร: 0-4297-0033