บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ (1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน (3) หาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ และ (4) ศึกษาพฤติกรรมความร่วมมือในการทำงานกลุ่ม ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนคำโพนทองบริบูรณ์ราษฎร์บำรุง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 จำนวน 24 คน ที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ ชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องการแก้โจทย์ปัญหา และแบบสังเกตพฤติกรรมความร่วมมือในการทำงานกลุ่ม การดำเนินการวิจัยโดยใช้การทดลองแบบ One Group Pretest-Posttest Design สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้ t-test แบบ Dependent Samples
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 79.69/79.31 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.6302 ซึ่งชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ผลการเรียนของนักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สูงขึ้นร้อยละ 63.02
4. นักเรียนที่ได้รับการสอนด้วยชุดกิจกรรมฝึกทักษะแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ มีพฤติกรรมความร่วมมือในการทำงานกลุ่ม อยู่ในระดับดีมาก
Abstract
The purposes of this research were ; 1) to develop and evaluate an efficiency of the mathematics problem solving activity packages based on instructional model of cooperative learning for Mathyom Suksa 1 students; 2) to compare the mathematics learning achievement; 3) to indentify an effectiveness index of the mathematics problem solving activity packages; and 4) to study group working behavior.
The subjects were 24 Mathayom Suksa 1 students of Khamphontongboriboonrajbumrung School in the second semester of 2007 academic year, selected by purposive sampling. The tools used in collecting data were : a mathematics problem solving activity packages based on instructional model of cooperative learning, a mathematics learning test, a group working behavior record form. One-Group Pretest-Posttest Design was used in thisstudy. The collected data were analyzed by percentage, means of arithmetic means, standard deviation, and t-test.
The finding of this study were as follow :
1. The efficiency of the mathematics problem solving activity packages based on instructional model of cooperative learning for Mathayom Suksa 1 students was 79.69/79.31which was higher than the set criterion of 75/75.
2. The posttest average score of mathematics learning achievement of the studentslearning through the mathematics problem solving packages was higher than thepretest average score at the .01 level of significance.
3. The percentage of the effectiveness index after using the mathematics problem solving activity packages was 63.02.
4. The average score of group working behavior of the students was at the high level.
กำลังออนไลน์: 22
วันนี้: 1,106
เมื่อวานนี้: 873
จำนวนครั้งการเข้าชม: 969,095
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย
ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
โทร: 0-4297-0033