บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรพยากรณ์กับการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนการไปรษณีย์ โรงเรียนการไปรษณีย์ 2) สร้างสมการเชิงพยากรณ์การคิดแก้ปัญหาของนักเรียนการไปรษณีย์ โดยการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นบันได กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนการไปรษณีย์ โรงเรียนการไปรษณีย์ ภายใต้การควบคุมของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 237 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบวัดการคิดแก้ปัญหา แบบวัดการจัดการความรู้ แบบวัดการคิดวิเคราะห์ แบบวัดการคิดวิจารณญาณ แบบวัดการคิดแบบโยนิโสมนสิการ แบบวัดการคิดสร้างสรรค์ แบบวัดความเชื่ออำนาจในตน แบบวัดแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ แบบวัดความสามารถในการฟันฝ่าปัญหาอุปสรรค และแบบวัดความฉลาดทางอารมณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient) และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นบันได (Stepwise Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรพยากรณ์แต่ละตัวกับตัวแปรเกณฑ์ พบว่า มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เป็นบวกทุกค่า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ตัวแปรพยากรณ์ที่มีความสัมพันธ์กับตัวแปรเกณฑ์สูงสุด คือ การคิดวิจารณญาณ (X3) มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.499 ส่วนตัวแปรพยากรณ์ที่มีความสัมพันธ์กับตัวแปรเกณฑ์ต่ำที่สุด คือ การคิดวิเคราะห์ (X2) คือ มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.187
2. ตัวแปรพยากรณ์ที่มีความสัมพันธ์กับการคิดแก้ปัญหา มีน้ำหนักความสำคัญของตัวแปรพยากรณ์แต่ละตัวในรูปคะแนนดิบ (b) ตามลำดับความสำคัญ ได้แก่ การจัดการความรู้ (X1) การคิดสร้างสรรค์ (X5) แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (X7) ความฉลาดทางอารมณ์ (X9) และการคิดแบบโยนิโสมนสิการ (X4) ค่าสัมประสิทธิ์ของตัวแปรพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ (B) เท่ากับ .435, .513, -.763, .310 และ .518 ตามลำดับ ในรูปคะแนนมาตรฐาน (ß) เท่ากับ .328, .466, -.753, .273 และ .465 ตามลำดับ ตัวพยากรณ์ทั้งหมดมีอำนาจในการพยากรณ์ได้ร้อยละ 71.90 มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณเท่ากับ .854 ค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการพยากรณ์ เท่ากับ 3.29 ค่าคงที่ของสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบเท่ากับ 35.601 สามารถนำมาสร้างสมการพยากรณ์การคิดแก้ปัญหาของนักเรียนการไปรษณีย์ในรูปคะแนนดิบและคะแนนมาตรฐานได้ดังนี้
สมการพยากรณ์การคิดแก้ปัญหาของนักเรียนการไปรษณีย์ในรูปคะแนนดิบ
Y’ = 35.601 + .435X1 + .513X5 - .763X7 + .310X9 + .518X4
เมื่อ Y’ แทน การคิดแก้ปัญหา
X1 แทน การจัดการความรู้
X5 แทน การคิดสร้างสรรค์
X7 แทน แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
X9 แทน ความฉลาดทางอารมณ์
X4 แทน การคิดแบบโยนิโสมนสิการ
สมการพยากรณ์การคิดแก้ปัญหาของนักเรียนการไปรษณีย์ในรูปคะแนนมาตรฐาน
Z’Y = .328ZX1 + .466ZX5 - .753ZX7 + .273ZX9 + .465ZX4
เมื่อ Z’Y แทน การคิดแก้ปัญหา
ZX1 แทน การจัดการความรู้
ZX5 แทน การคิดสร้างสรรค์
ZX7 แทน แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
ZX9 แทน ความฉลาดทางอารมณ์
ZX4 แทน การคิดแบบโยนิโสมนสิการ
Abstract
The purposes of this study were to 1) explore the relationship between predictors and factors influencing the problem solving of the postal students in Postal School, Bangkok 2) make the equations for predicting the solving of problem of the postal students using Stepwise Multiple Regression Analysis. Samples used in this study were 237 students studying in Postal School under the Thailand Post Co,Ltd., Bangkok, selected through the purposive sampling technique. The instruments employed were composed of the problem solving scale, knowledge management scale, analytical thinking scale, critical thinking scale, critical reflection scale, creative thinking scale, internal Locus of Control scale, achievement motive scale, adversity quotient scale and emotional quotient scale. Data were analyzed by using mean, standard deviation, Pearson’s Product Moment Correlation coefficient and Stepwise Multiple Regression Analysis.
The findings of this study were as follows :
1. The correlation coefficient between each predictor and the criterion variable revealed that it had the positive relationship with the problem solving at the .05 level of significance. The predictor that had the highest relationship with the problem solving was critical thinking (X3) with the correlation coefficient of .508, whereas the predictor that had the relationship with the criterion variable at the lowest level was analytical thinking (X2) with the correlation coefficient of 0.182.
2. Each effective predictor obtained the relationship with the solution of problems with the values in raw scores in the following orders: (Y) knowledge management (X1) = .435, creative thinking (X5) = .513, achievement motive (X7) = -763, emotional quotient (X9) = .310, critical reflection (X4) = .518. The predictive coefficients values in standardized scores forms (ß) were .328, .466, -.753, .273 and .465 respectively. The predictive coefficients value (R2) was .854; the validity was 71.90 percent; the standardized deviation was 3.29; and the stable value in forms of raw scores was 35.601. The findings could be applied in forms of raw scores and standardized scores in predictive equations as follows:
The equation of Regression Analysis in the raw score forms :
Y’ = 35.601 + .435X1 + .513X5 - .763X7 + .310X9 + .518X4
When Y’ represented Problem Solving
X1 represented Knowledge Management
X5 represented Creative Thinking
X7 represented Achievement Motive
X9 represented Emotional Quotient: EQ
X4 represented Critical Reflection
The equation in standardized score forms :
Z’Y = .328ZX1 + .466ZX5 - .753ZX7 + .273ZX9 + .465ZX4
When Z’Y represented Problem Solving
ZX1 represented Knowledge Management
ZX5 represented Creative Thinking
ZX7 represented Achievement Motive
ZX9 represented Emotional Quotient: EQ
ZX4 represented Critical Reflection.
กำลังออนไลน์: 53
วันนี้: 0
เมื่อวานนี้: 1,309
จำนวนครั้งการเข้าชม: 969,298
อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033
บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย
ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์
โทร: 0-4297-0033