...
...
เผยแพร่: 29 เม.ย. 2567
หน้า: 52-62
ประเภท: บทความวิจัย
View: 59
Download: 25
Download PDF
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ เรื่อง การวาดภาพระบายสีและการปั้น ตามแนวคิดการใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
Development of Learning Activities in the Art Subjects Entitled Drawing and Sculpture Based on Brain-Based Learning with Cooperative Learning for Prathomsuksa 5 Students
ผู้แต่ง
ธีราภรณ์ ธนะคำดี, พจมาน ชำนาญกิจ และวิจิตรา วงศ์อนุสิทธิ์
Author
Teeraporn Thanakhamdee, Potchaman Chamnankit and Vijittra Vongananusith

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ เรื่อง การวาดภาพระบายสีและการปั้น ตามแนวคิดการใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น 3) เปรียบเทียบทักษะในการสร้างสรรค์งานศิลปะของนักเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านโคกแก้ว ตำบลนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 11 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินทักษะการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที แบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (Dependent Samples t-test และ One Sample t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1) กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ เรื่อง การวาดภาพระบายสีและการปั้น ตามแนวคิดการใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือมีประสิทธิภาพ 92.89/82.64 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ทักษะการสร้างสรรค์งานศิลปะของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับร้อยละ 83.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาศิลปะ ตามแนวคิดการใช้สมองเป็นฐานร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ อยู่ในระดับมากที่สุด (\bar{x} = 4.56, S.D. = 1.34)

Abstract

The purposes of this research were 1) to develop the learning activities in the art subjects entitled drawing and sculpture based on brain-based learning with cooperative learning to contain the efficiency of 80/80, 2) to compare students’ learning achievement before and after learning through the developed learning activities, 3) to compare students’ creative art production skills to meet the specified criteria of 70 percent of the full scores, and 4) to explore the students’ satisfaction toward learning through the developed learning activities. The sample, obtained through cluster random sampling, consisted of 11 Prathomsuksa 5 students from Ban Kokkaew School under Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1 in the second semester of the 2022 academic year. The research instruments included: 1) lesson plans based on brain-based learning with cooperative learning, 2) a learning achievement test, 3) a form for assessing creative art production skills, and 4) a satisfaction questionnaire. Statistics for data analysis were percentage, were mean, standard deviation, and Dependent Samples t-test, and One sample t-test. The findings were as follows: 1) The learning activities in the art subjects entitled drawing and sculpture based on brain-based learning with cooperative learning achieved the efficiency criteria of 92.89/82.64, which was higher than the defined criteria of 80/80. 2) The student learning achievement after the intervention was higher than that before the intervention at the .01 level of significance. 3) The students’ creative art production skills achieved a rate of 83.06 percent, which was higher than the specified criteria of 70 percent of full scores at the .01 level of significance. 4) The satisfaction of the students toward learning through the developed learning activities was at the highest level (\bar{x} = 4.56, S.D. = 1.34).

คำสำคัญ

กิจกรรมการเรียนรู้ศิลปะ, การใช้สมองเป็นฐาน, การเรียนรู้แบบร่วมมือ

Keyword

Art Learning Activities, Brain-Based learning, Cooperative Learning
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สถิติการเข้าชมเว็บไซต์

กำลังออนไลน์: 21

วันนี้: 112

เมื่อวานนี้: 471

จำนวนครั้งการเข้าชม: 825,664

สำนักงานสาขาวิชาวิจัยหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

อาคารบัณฑิตวิทยาลัย ชั้น 3 เลขที 680 หมู่ที่ 11 ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 โทรศัพท์/ โทรสาร 0-4297-0033

ติดต่อเรา

บรรณาธิการ: รองศาสตราจารย์ ดร.สำราญ กำจัดภัย

ติดต่อ/สอบถาม: นางสาวศิวาภรณ์ เก่งสุวรรณ์

โทร: 0-4297-0033